หากจะบอกว่าประเทศไทยนั้นไม่เคยขาดนักมวยฝีมือดีก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะในอดีตก็มีนักชกชาวไทยหลายคนที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เช่นเดียวกับ “บัวขาว บัญชาเมฆ”
แม้ว่าปัจจุบัน บัวขาว จะไม่ค่อยขึ้นสังเวียนให้แฟนมวยได้เชียร์เหมือนแต่ก่อน แต่ฝีไม้ลายมือในอดีตของ บัวขาว มันปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาคือหนึ่งในปรากฏการณ์ของวงการมวยบ้านเรา
วันนี้ The Sporting News Thailand จึงอยากพาทุกท่านไปรู้จักกับตำนานนักมวยรายนี้กันมากขึ้น
ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลมวยประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด
เช็คช่องทางที่ดีที่สุดในการลุ้นโชคได้ที่นี่
โปรแกรมต่อไปของ บัวขาว บัญชาเมฆ
บัวขาว บัญชาเมฆ มีคิวขึ้นชกในกติกามวยสากลไฟต์แรกในชีวิต กับนักชกระดับตำนานอย่าง แมนนี่ ปาเกียว ในศึก “The Match of Legends” ในวันเสาร์ที่ 20 เมษายน 2024 ที่ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับไฟท์ บัวขาว vs นายาเนช ที่นี่
ประวัติส่วนตัวของ บัวขาว บัญชาเมฆ
- ชื่อเต็ม : ร้อยโท สมบัติ บัญชาเมฆ
- วันเกิด : 8 พฤษภาคม 1982
- อายุ : 41 ปี
- น้ำหนัก : 70 กิโลกรัม
- ส่วนสูง : 173 เซนติเมตร
เส้นทางนักมวยของ บัวขาว บัญชาเมฆ
ร้อยโท สมบัติ บัญชาเมฆ หรือชื่อที่ใช้ในวงการมวยว่า “บัวขาว บัญชาเมฆ” เริ่มต้นชีวิตของตัวเอง และเริ่มต้นชีวิตนักมวยที่จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิดของเขา โดย บัวขาว เริ่มหันหน้าเข้าสู่วงการมวยตั้งแต่อายุ 8 ขวบ และตระเวนชกมวยที่บ้านเกิดเป็นเวลาเรื่อยมา
กระทั่งอายุได้ 15 ปี บัวขาว ได้เข้าไปอยู่ในค่ายมวย “ป.ประมุข” เพื่อฝึกฝนวิชามวยไทยให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยใช้ชื่อว่า "ดำทมิฬ เกียรติอนันต์" ในการเดินทางสายชกมวยทั่วเมืองหลวงของประเทศไทย พร้อมกับคว้าเข็มขัดมาได้หลายเส้น
รวมถึงสามารถเป็นผู้ชนะมวยไทยมาราธอน โตโยต้า รุ่น 140 ปอนด์ ที่สนามมวยเวทีลุมพินีด้วยการล้ม โคบายาชิ นักมวยชื่อดังจากญี่ปุ่นในปี 2002
และมันจึงทำให้ในปี 2004 บัวขาว ได้มีโอกาสไปขึ้นชกที่ประเทศญี่ปุ่นในรายการระดับโลก อย่างศึก “K-1 World MAX 2004” ที่กรุงโตเกียว ในฐานะนักชกโนเนมจากประเทศไทย แต่ทว่าหลังจากผ่านพ้นคืนนั้นไป ชื่อของ “บัวขาว” ก็ได้กลายเป็นที่รู้จักไปทั่ววงการ
สำหรับศึก K-1 World MAX จะเป็นการแข่งขันมวยแบบทัวร์นาเมนต์ ไม่มีที่ว่างให้ผู้แพ้ และผลการแข่งขันทุกอย่างจะจบในคืนเดียว ซึ่งในรอบแรก บัวขาว ขึ้นชกกับ “จอห์น เวย์น พาร์” นักชกชาวออสเตรเลีย ก่อนที่สุดท้าย บัวขาว จะชนะไปได้ ต่อมาในรอบรองชนะเลิศ บัวขาว ต้องขึ้นชกกับนักมวยเจ้าถิ่น นามว่า โคะฮิรุมาคิ ทากะยูกิ แต่ก็เป็นอีกครั้งที่นักชกจากไทยเป็นฝ่ายชนะ
จนสุดท้ายแล้ว บัวขาว ที่เป็นเหมือนม้ามืดในรายการสามารถเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศได้อย่างเซอร์ไพรส์ ซึ่งคู่ชกของ บัวขาว ในนัดตัดสินชะตาก็คือ มาซาโตะ แชมป์เก่าในรายการนี้ และไม่ว่าจะมองจากมุมไหน นักมวยจากสุรินทร์ก็เป็นรองนักชกเจ้าถิ่นหลายเท่าตัว
แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า บัวขาว จะด้อยกว่าในเรื่องประสบการณ์ และเสียงเชียร์ แต่ถึงกระนั้นหัวจิตหัวใจนักสู้ของ บัวขาว นั้นยิ่งใหญ่กว่าสิ่งไหน จนทำให้สุดท้ายแล้ว บัวขาว สามารถล้ม มาซาโตะ ลงได้ และคว้าเข็มขัดแชมป์ K1 มาครองได้สำเร็จ
แม้ในปีต่อมาเขาจะต้องเสียเข็มขัดให้กับ แอนดี้ ซาวเวอร์ นักชกจากเนเธอร์แลนด์ แต่ในปี 2006 ภายหลังเสียเข็มขัดเพียงแค่ปีเดียว บัวขาว ก็กลับมาทวงแชมป์คืนได้อีกครั้ง ด้วยการล้างแค้น แอนดี้ ซาวเวอร์ ในนัดชิงชนะเลิศ
พร้อมกับสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักมวยคนแรกที่คว้าแชมป์ได้ 2 ครั้ง ก่อนที่หลังจากนั้นมา บัวขาว บัญชาเมฆ จะสถาปนาเป็นยอดนักชกแห่งยุค และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยได้อย่างเป็นมาก
สถิติของ บัวขาว บัญชาเมฆ (คิกบ็อกซิ่ง/มวยไทย)
- 280 ไฟต์
- ชนะ 241 ไฟต์
- เสมอ 24 ไฟต์
- แพ้ 14 ไฟต์
ความสำเร็จ
K1
- K-1 World MAX Champion 2004
- K-1 World MAX Champion 2006
มวยไทย
- อ้อมน้อย รุ่นเฟเธอร์เวท 2001
- อ้อมน้อย รุ่นไลท์เวท 2002
- แชมป์ประเทศไทย รุ่นเฟเธอร์เวท 2001
- มาราธอน โตโยต้า รุ่น 140 ปอนด์ 2002
บทความที่เกี่ยวข้อง : เปิดประวัติ แมนนี่ ปาเกียว : ยอดตำนานนักชกชาวฟิลิปปินส์ เจ้าของแชมป์โลก 8 รุ่น
ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลมวยประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด
เช็คช่องทางที่ดีที่สุดในการลุ้นโชคได้ที่นี่
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand