ปัญหาหลังบ้านสู่ผลงานในสนาม : เหตุใด ‘บาเยิร์น’ เอาชนะ ‘บาร์เซโลน่า’ เป็นว่าเล่น

The Sporting News

ปัญหาหลังบ้านสู่ผลงานในสนาม : เหตุใด ‘บาเยิร์น’ เอาชนะ ‘บาร์เซโลน่า’ เป็นว่าเล่น  image

เกมระหว่าง บาเยิร์น มิวนิค และ บาร์เซโลน่า ถือเป็นเกมใหญ่ในการแข่งขันฟุตบอลยุโรป นี่คือ 2 ทีมที่มีประวัติศาสตร์อยู่ในระดับแนวหน้าของโลกฟุตบอล เราสามารถจินตนาการได้ถึงเกมการแข่งขันที่มีคุณภาพ เหมาะสมกับมาตรฐานของทั้ง 2 ทีม 

แต่ในช่วงทศวรรษหลังสุดดูเหมือนว่าบาเยิร์น มิวนิค ทำได้ดีกว่าทีมอดีตเจ้าบุญทุ่มเยอะมาก ๆ แน่นอนว่ามันก็มีสาเหตุในแต่ละครั้ง 

หากนับในช่วงทศวรรษหลังสุดในการเจอกันของทั้ง 2 ทีม บาเยิร์นกลายเป็นทีมที่ผูกขาดในการเอาชนะบาร์เซโลน่าไปแล้ว 

เพราะ 10 ปีที่ผ่านมา ทั้ง 2 ทีมเจอกันทั้งหมด 8 เกมในรายการยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก บาเยิร์น ชนะถึง 7 ครั้ง และบาร์เซโลน่าชนะเพียง 1 เท่านั้น โดยที่เสือใต้ยิงสกอร์รวมทั้งหมด 26-7 สกอร์อย่างกับทีมที่เล่นอยู่คนละชั้น ไม่ใช่ทีมระดับสูงเหมือนกัน 

หากย้อนกลับไปในฤดูกาล 2012/13 นั่นคือฤดูกาลที่แข็งแกร่งสุดๆของเสือใต้ กับการคว้า 3 แชมป์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรด้วยการเล่นแบบเดินหน้าฆ่ามันในยุคของ จุ๊ปป์ ไฮย์เกส สุดยอดผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน 

ขณะที่บาร์เซโลน่ากำลังเข้าสู่ช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงหลังสิ้นยุคเป๊ป กวาร์ดิโอล่า จนกลายเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของบาเยิร์นที่ ผลการแข่งขัน 2 นัดรวมกัน 7-0 จนกลายเป็นที่พูดถึง แต่เราปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเสือใต้ฤดูกาลนั้นสุดยอดจริงๆ 

ฤดูกาล 2014/15 ทั้งคู่กลับมาเจออีกครั้งในรอบเดิม คือรอบรองชนะเลิศของรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก คราวนี้เป็นเกมแบบบ้านใครบ้านมัน ที่คัมป์นูเป็นเกมที่บาร์ซ่าชนะ 3-0 ส่วนกลับมาที่ อัลลิอันซ์ อารีนา เป็นเสือใต้ชนะได้ 3-2 ซึ่งฤดูกาลนั้นบาร์ซ่าก็จบด้วยการคว้าแชมป์ กับยอดเยี่ยมเช่นกันในยุคที่มี 3 ประสาน ลิโอเนล เมสซี่ , เนย์มาร์ และ หลุยส์ ซัวเรซ  

จะเห็นว่าใน 4 เกมที่ว่านี้ทั้งคู่เจอกันในรอบลึกๆ มีความใกล้เคียงกันมากๆ ว่าง่าย ๆที ใครทีมัน เพราะไม่ใช่ทีมที่มีระดับต่างกัน บาเยิร์น มิวนิค ยังสามารถแสดงศักยภาพและความต่อเนื่องได้ในการต่อยอดทีม 

กลับกันสิ่งที่เริ่มเปลี่ยนไปคือบาร์เซโลน่าที่มีปัญหานอกสนามเป็นเงาตามตัวตลอดช่วงหลังก่อนมันจะมาออกดอกออกผลในสนามในช่วงหลายๆเกมหลังจากนั้น  

สกอร์ 8-2 ในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาล 2019/20 เป็นอีกหนึ่งเกมคลาสสิคที่แฟนฟุตบอลจดจำ บาร์เซโลน่าไม่มีอะไรไปสู้บาเยิร์นชุดนั้นขอ งฮันซี่ ฟลิค ได้เลย เสือใต้ชุดนี้แทบไม่ต่างจากยุคของไฮย์เกสที่โฟกัสเสมอ เล่นแบบเต็มที่ เก็บทุกเม็ด แล้วเวลาฆ่าคู่แข่งต้องเอาให้ตายเพื่อไปให้ถึงแชมป์ให้ได้ นี่คือจิตใจที่แข็งแกร่งของเสือใต้ในตอนนั้นที่พวกเขามีเพียงเป้าหมายเดียวเท่านั้น ซึ่งสุดท้ายก็เป็นปีที่พวกเขาคว้าแชมป์ในเวลาต่อมา 

ก่อนตามด้วยชนะไปและกลับในฤดูกาล 2021/22 ในรอบแบ่งกลุ่มของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่บาเยิร์นส่งบาร์ซ่าลงไปเล่นในรายการยูโรปาลีกตามศักภาพทีมของพวกเขา 

ในซัมเมอร์ 2022 เป็นความหวังของ แฟนๆบาร์เซโลน่า เมื่อพวกเขาเปลี่ยนทีมยกใหญ่ในยุคชาบี เล่นฟุตบอลก็สนุกขึ้นแถมยังมีฟอร์มการเล่นที่ยังยอดเยี่ยม การกลับมาเจอกับเสือใต้ในรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แต่ก็ยังจบลงด้วยความแพ้ 

หนนี้ว่ากันตามตรงเป็นความพ่ายแพ้ 2-0 ที่บาร์ซ่าคงจะรู้สึกเสียดายเพราะในครึ่งแรกพวกเขาเล่นได้สุดยอดมากๆ ดีกว่าเจ้าบ้านด้วยซ้ำ ซึ่งรูปเกมแบบนี้ไม่เคยเกิดในช่วงหลังเมื่อเจอกับบาเยิร์น 

แต่ความผิดพลาดเล็กน้อยเสือใต้ยิงชนะไปได้ถึง 2 ประตู ก็ถือว่ามีพัฒนาการที่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะกลับมาแกร่งขึ้นได้หลังจากนี้สำหรับยอดทีมอย่างบาร์เซโลน่า  

ดังนั้นสิ่งสำคัญที่เราเห็นได้จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ก็สามารถบอกได้ว่ามีสองปัจจัยสำคัญที่ทำให้ บาเยิร์นผูกขาดชัยชนะเหนือบาร์เซโลน่า ยามพบกันตลอด 10 ปีที่ผ่านมา

ประการแรกคือ 10 ฤดูกาลหลังสุด บาเยิร์น มิวนิค รักษาความแข็งแกร่งของทีมเอาไว้ได้ตลอด ดูได้จากการกวาดแชมป์บุนเดสลีกา 10 ฤดูกาลซ้อนของทีม ต่อให้มีการเปลี่ยนโค้ชสักกี่ครั้ง เปลี่ยนนักเตะสักกี่คน ทีมก็ยังรักษาผลงาน และคุณภาพของทีมได้เช่นเดิม 

นอกจากนี้ การบริหารของทีมเสือใต้ ทำได้ดีกว่าบาร์เซโลน่ามาก ด้วยการบริหารที่เป็นระบบ แนวทางการทำทีมของบาเยิร์นไม่เคยเปลี่ยนไป เดินแนวทางได้อย่างต่อเนื่อง

อีกทั้งบาเยิร์น ยังบริหารการเงินของทีมได้เป็นอย่างดี และมีกำไรทุกฤดูกาลแม้เจอสถานการณ์โรคระบาด ซึ่งส่งผลดีต่อการพัฒนาทีมที่ทำตามแผนงานได้แบบไม่มีขาดตกบกพร่อง 

ในทางตรงกันข้าม เราเห็นได้ชัดเจนว่าผลงานของบาร์เซโลน่าไม่สม่ำเสมอ มีช่วงที่พวกเขาทำผลงานได้ดี และมีช่วงที่ฟอร์มตกเช่นกัน ขณะที่การเปลี่ยนโค้ชแต่ล่ะครั้ง ก็สามารถนำมาซึ่งผลงานที่ร่วงหล่นลงได้ 

แต่ปัญหาที่สำคัญกว่าของบาร์เซโลน่าที่ทำให้พวกเขาแพ้บาเยิร์น คือการบริหารที่ล้มเหลวไม่ประสบความสำเร็จแบบบาเยิร์น

ในขณะที่บาเยิร์นซื้อตัวนักฟุตบอลอย่างชาญฉลาด ไม่ต้องใช้เงินเยอะแยะมากมาย แต่ก็นักเตะคุณภาพดีมาพาทีมเดินหน้าต่อไป แต่บาร์ซ่าใช้เงินจำนวนมากแต่ซื้อนักเตะเสริมทีมหลายคนไม่เข้าไป ทั้ง อุซมาน เด็มเบเล่, อองตวน กรีซมันน์ และฟิลิปเป้ คูติญโญ่ ซึ่งนอกจากจะผลาญเงินไปมาก ยังส่งผลต่อความแข็งแกร่งของทีมระยะยาว เพราะแผนที่วางไว้พังเละไม่เป็นท่า

อีกทั้งเรื่องการบริหารการเงินของทีม บาร์เซโลน่าก็เจอปัญหาหนี้สินอย่างหนัก จนทำให้ทีมเสียความแข็งแกร่ง และแผนงานพัฒนาทีมก็เจอปัญหาอยู่ตลอด 

ซึ่งความไม่ต่อเนื่องนี่เอง ทำให้บาเยิร์นทำได้ดีกว่าบาร์ซ่า และมีความพร้อมมากกว่า เมื่อเวลาเจอกันบาเยิร์นจึงเป็นทีมที่มีคุณภาพมากกว่าบาร์ซ่าในภาพรวมตลอด 10 ปีที่ผ่านมา 

ขณะที่อีกมุมหนึ่ง การที่บาเยิร์นเอาชนะบาร์ซ่าได้ตลอด ก็เป็นเรื่องจิตวิทยาเหมือนกัน เพราะยิ่งบาเยิร์นชนะบาร์ซ่ามากเท่าไหร่ นักเตะเสือใต้ก็ยิ่งมั่นใจยามเจอบาร์ซ่ามากเข้านั้น

ในทางตรงกันข้าม ยิ่งบาร์ซ่าแพ้บาเยิร์นมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งกดดัน และมีความมั่นใจน้อยลงไปเรื่อย ๆ ซึ่งพอถึงเวลาจริงในสนามความกดดัน ทำให้บาร์ซ่าเอาชนะบาเยิร์นไม่ได้ และบาเยิร์นที่มั่นใจกว่า ก็สามารถลงโทษบาร์ซ่าได้ แม้มีโอกาสแค่ไม่กี่ครั้ง

สรุปได้ว่าในตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมสำหรับบาเยิร์น มิวนิค หากคุณไม่ได้แกร่งพอก็คงเอาชนะพวกเขาได้ยากมาก ๆ ขนาดปีที่บาร์ซ่าดีสุด ๆ ยังไม่สามารถชนะเสือใต้ได้ทั้ง 2 นัด ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปทีมของบาร์ซ่ามีช่วงที่ทั้งดีและแย่ แน่นอนช่วงที่แย่ก็เป็นหมูให้เสือใต้เชือดกินง่าย ๆ 

เพียงแต่ว่าในฤดูกาล 2022/23 บาร์เซโลน่ามีสัญญาณที่ดีที่อาจบอกว่าพวกเขาอาจจะกลับมาชนะบาเยิร์นก็ได้ ในอนาคตอันใกล้หลังพ่ายแพ้มา 5 เกมติดต่อกัน เมื่อทั้งคู่ได้โคจรมาพบกัน  

 

The Sporting News

The Sporting News Photo

Beyond the score: The sports world explained. The Sporting News has been a trusted sports media publisher since 1886, delivering the news, insights and entertainment that fans around the world need to know.