ไขข้อสงสัย : ทำไม คริสแต็ปส์ พอร์ซิงกิส อาจเป็นคีย์แมนในการพา เซลติกส์ ได้แชมป์

Aussadang Tarapit

ไขข้อสงสัย : ทำไม คริสแต็ปส์ พอร์ซิงกิส อาจเป็นคีย์แมนในการพา เซลติกส์ ได้แชมป์ image

บอสตัน เซลติกส์ ทีมอันดับ 1 ของสายตะวันออกและแน่นอนว่าพวกเขาคือทีมอันดับ 1 ของลีกในตอนนี้ การมีผู้เล่นที่แข็งแกร่งในทุกตำแหน่งทำให้พวกเขาไร้เทียมทานในฤดูกาลปกติ โดยหนึ่งในผู้เล่นสำคัญของทีมนี้ก็คือ คริสแต็ปส์ พอร์ซิงกิส

ตลอดเวลาที่ผ่านมาในอาชีพ พอร์ซิงกิส ได้พิสูจน์มาแล้วไม่น้อยกับการเล่นโพสต์เพลย์ ซึ่งทั้งจากตัวเลขและการดูเขาเล่นผ่านสายตา เขาไม่ควรที่จะเล่นได่โพสต์เพลย์มากขนาดนั้นเพราะมีสถิติที่ไม่ดี ทั้งๆที่เขามีความสูงถึง 7 ฟุต 2 เลยด้วยซ้ำ

แต่ทว่าในฤดูกาลนี้กลับไม่ใช่แบบนั้น เพราะเขาได้กลายร่างเป็นคนที่มีประสิทธิภาพในการเล่นโพสต์เพลย์ และมันมากขนาดที่ว่าเขาเป็นอันดับ 1 ในลีกเลยด้วยซ้ำ จนทำให้ เซลติกส์ น่ากลัวอย่างทุกวันนี้

ทำไม คริสแต็ปส์ พอร์ซิงกิส อาจเป็นคีย์แมนในการพา เซลติกส์ ได้แชมป์และโพสต์เพลย์ของเขาน่ากลัวแค่ไหนสำหรับคู่แข่ง? ติดตามไปพร้อมกันได้ที่นี่

NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก

ทำไม คริสแต็ปส์ พอร์ซิงกิส อาจเป็นคีย์แมนในการพา เซลติกส์ ได้แชมป์

หากใครจำกันได้ การเล่นโพสต์เพลย์ของ พอร์ซิงกิส นั้นถูกปฏิเสธมาตั้งแต่ยุคที่เขาเล่นให้กับ ดัลลาส แมฟเวอร์ริกส์ แล้ว ซึ่ง ริค คาร์ไลส์ หัวหน้าโค้ชในตอนนั้นได้บอกเอาไว้ว่าการเล่นแบบนี้ไม่ได้นำไปสู่ชัยชนะของทีม

โดยในตอนนั้น สิ่งที่ คาร์ไลส์ ให้ พอร์ซิงกิส รับหน้าที่ก็คือการให้เขาไปยืนอยู่ที่เส้นสามคะแนนเพื่อสร้างพื้นที่ให้ ลูก้า ดอนซิช แน่นอนว่าตัวเลขที่ชี้ออกมามันไม่ได้ผิดเลยแม้แต่น้อย และมันสามารถยอมรับได้จริงๆว่านี่คือความคิดที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เขาอยู่กับ นิกส์ หรือว่า แมฟส์

ฟิลด์โกลจากการโพสต์อัพของ คริสแต็ปส์ พอร์ซิงกิส (NBA.com)
ฤดูกาล ฟิลด์โกลจากการโพสต์อัพ
2023-24 (BOS) 66.7%
2022-23 (WAS) 58.0%
2021-22 (WAS) 49.0%
2021-22 (DAL) 42.3%
2020-21 (DAL) 49.2%
2019-20 (DAL) 37.0%
2018-19  ไม่ได้ลงเล่น
2017-18 (NYK) 43.4%
2016-17 (NYK) 37.1%
2015-16 (NYK) 40.5%

หลังจากออกจาก แมฟส์ มาอยู่กับวิซาร์ดส์ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเพราะทางด้านของ พอร์ซิงกิส เองก็เริ่มแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาในเรื่องนี้แล้ว ซึ่งหากดูจากสถิติแล้ว เซ็นเตอร์รายนี้ของ บอสตัน ทำได้ดีกว่าทั้ง โจเอล เอ็มบีด และ นิโคลา โยคิช ด้วยซ้ำในฤดูกาลนี้

ผู้นำเปอร์เซ็นต์ฟิลด์โกลจากการโพสต์อัพ (อย่างน้อย 100 การครองบอล) (NBA.com)

ผู้เล่น ฟิลด์โกลจากการโพสต์อัพ
คริสแต็ปส์ พอร์ซิงกิส 66.7%
ยานนิส อันเทโทคุมโป 63.6%
นิโคลา โยคิช 60.9%
โยนาส วาลาชูนาส 60.0%
เจย์เลน บราวน์ 59.0%
โดมันทาส ซาโบนิส 57.9%
คาร์ล แอนโทนี-ทาวน์ส 57.6%
โจเอล เอ็มบีด 57.5%

สาเหตุที่ทำให้ พอร์ซิงกิส มีการเล่นโพสต์เพลย์ที่ดีขึ้น

คงต้องบอกว่าสภาพแวดล้อมของ บอสตัน เซลติกส์ เอื้ออำนวยกับการเล่นโพสต์ของ พอร์ซิงกิส อยู่ไม่น้อย เนื่องจากทั้งทีมของ เซลติกส์ มีคนที่ถือบอลเองและยิงได้ดีเยอะมากโดยเฉพาะกับผู้เล่นตัวจริง มันจึงทำให้ สเปซ ค่อนข้างเยอะ

จากความได้เปรียบตรงนี้ ในหลายๆสถานการณ์ พอร์ซิงกิสจะได้แมตช์อัพ 1 ต่อ 1 กับผู้เล่นที่ตัวเล็กกว่า หรืออย่างการเล่นคู่กับ แอล ฮอร์ฟอร์ด ก็มีหลายครั้งไม่น้อยที่ พอร์ซิงกิส โดนตำแหน่ง 4 ของอีกฝั่งเข้ามาป้องกัน และเขาก็ได้แมตช์อัพกับผู้เล่นที่ตัวเล็กกว่าทันที

อย่างเช่นลูกนี้ที่ ไมอามี ฮีต ตัดสินใจสวิตช์เพื่อตัดแอ็คชันการเล่นพิคแอนด์โรล เททัมก็ได้โอกาสส่งบอลให้ พอร์ซิงกิส เพื่อที่เขาจะเล่นโพสต์เพลย์ใส่ จิมมี บัตเลอร์ ที่ตัวเล็กกว่า ซึ่งผลลัพธ์ก็ดูได้ในเพลย์ด้านล่างนี้เลย

นอกจากนั้น การเรียกฟาลว์จากการเล่นโพสต์ของ พอร์ซิงกิส ก็ยังยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ เมื่อไปดูที่ตัวเลข พอร์ซิงกิสสามารถเรียกฟาวล์จากโพสต์เพลย์ได้มากที่สุดจาก 10 ผู้เล่นที่เล่นโพสต์เพลย์อย่างน้อยสามครั้งต่อเกม

และที่เป็นแบบนั้นก็เพราะแทนที่เขาจะเฟดอเวย์เหมือนตลอดอาชีพที่เขาทำมา แต่เขากลับพยายามชนและรับการปะทะของผู้เล่นเกมรับของฝั่งตรงข้ามมากขึ้นนั่นเอง

ผู้นำจำนวนการได้ลูกโทษจากโพสต์อัพ (NBA.com)
ผู้เล่น จำนวนการได้ลูกโทษจากโพสต์อัพ
คริสแต็ปส์ พอร์ซิงกิส 31.8%
โจเอล เอ็มบีด 20.9%
จาเรน แจ็คสัน จูเนียร์ 19.6%
วิคเตอร์ เวมบันยามา 19.5%
แอนโทนี เดวิส 19.5%
แบม อเดบาโย 17.1%
จูเลียส แรนเดิล 16.6%
อัลเพอเรน เซ็นกุน 14.6%
นิโคลา โยคิช 14.4%
ยานนิส อันเทโทคุมโป 12.7%

ซึ่งการเล่นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นแบบนี้ บวกกับการเลือกแมตช์อัพได้ตามใจชอบในหลายๆครั้งจึงทำให้ เซลติกส์ น่ากลัวมากขึ้นไปอีกและนั่นทำให้เขากลายเป็นอีกหนึ่งอาวุธหนักของ เซลติกส์ ไปโดยปริยาย

เพราะฉะนั้นในช่วงเวลาที่สำคัญหลายๆครั้ง การให้ พอร์ซิงกิส โพสต์อัพจะสร้างความแตกต่างได้มากไม่น้อย เพราะจากที่ เซลติกส์ จะมัวแต่ยิงสามคะแนน พวกเขาจะมีทางเลือกให้เล่นมากขึ้น, มีตัวกดดันห่วงมากขึ้นโดยไม่ต้องพึ่ง บราวน์ หรือ เททัม และเมื่อไหร่ที่มีตัวประกบเข้ามารุม การจ่ายไปยังเพื่อนร่วมทีมโล่งๆก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งเช่นกัน 

อย่างที่กล่าวไปทั้งหมด หาก พอร์ซิงกิส ไม่ได้รับบาดเจ็บหรือมีอะไรที่โชคร้าย เขาจะเป็นคีย์แมนคนสำคัญของ บอสตัน เซลติกส์ ในเพลย์ออฟอย่างแน่นอน

บทความที่เกี่ยวข้อง : ทำได้แต่ไม่ทำ : บทพิสูจน์ว่าทำไม นิโคลา โยคิช คือเทพแห่งการทำแต้มใน NBA

บทความที่เกี่ยวข้อง : ไขข้อสงสัย : ทำไม บรอนนี เจมส์ ถูก ESPN ตัดชื่อออกจากผู้เล่นที่จะดราฟต์ในปี 2024?

ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา

Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH

Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th

Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand

Aussadang Tarapit

Aussadang Tarapit Photo

นักวิเคราะห์บาสเกตบอล NBA ของ The Sporting News ผู้เจาะลึกทุกเพลย์การเล่น