ขึ้นเร็วลงเร็ว : เหตุใด ‘บอร์นมัธ’ ถึงเป็นเต็งหนึ่งตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก

The Sporting News

ขึ้นเร็วลงเร็ว : เหตุใด ‘บอร์นมัธ’ ถึงเป็นเต็งหนึ่งตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก image

บอร์นมัธ เลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกด้วยการเป็นอันดับที่ 2 ของเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ด้วยการนำของสก็อต ปาร์คเกอร์ กุนซือหนุ่มที่เข้ามายกระดับทีมจนสามารถเลื่อนชั้นขึ้นมาได้ 

แน่นอนว่าสำหรับทีมน้องใหม่ความหวังของพวกเขาเมื่อเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีคสูงสุดก็คือการอยู่ต่อไปให้นานที่สุด เพื่อนำเงินมาพัฒนาทีมต่อไปในอนาคตหลังจากนั้น 

แต่สถานการณ์ในตอนนี้ กลับดูเหมือนว่าในตอนนี้ บอร์นมัธ กลายเป็นเต็ง 1 ที่เตรียมจะต้องตกชั้นลงไปเล่นเดอะ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อฤดูกาล 2022-23 สิ้นสุดลง

การเริ่มต้นฤดูกาลของพวกเขาเริ่มฤดูกาลด้วยการเอาชนะ แอสตัน วิลล่า ของสตีเว่น เจอร์ราร์ด ถือเป็นการเริ่มฤดูกาลที่ดี ก่อนเจอโปรแกรมนรก เจอ 3 จาก 6 ทีมบิ๊กซิกซ์ของลีกอังกฤษ ทั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ , อาร์เซนอล และ ลิเวอร์พูล นั่นไม่แปลกเลยที่พวกเขาจะแพ้ทั้ง 3 นัดติดต่อกัน โดย 1 ในนั้นคือการแพ้แบบย่อยยับหมดรูปด้วยสกอร์ 9-0 ต่อหงส์แดงในเกมที่พวกเขาเล่นที่แอนฟิลด์ 

ด้วยการเริ่มต้น 4 เกมแรกของพวกเขาแพ้ 3 เกมติดๆกัน ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น สก็อต ปาร์คเกอร์ ที่เป็นคนพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาถูกเด้งออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมทันที

 ซึ่งเรามองไปก็พอเข้าใจได้ว่าเขาเจอโปรแกรมหนักจริงๆ ถ้ามองถึงความเป็นจริงทีมชุดนี้ก็ยากจะชนะ 3 ทีมนั้นได้ไม่ว่าจะมีโค้ชชื่อว่าอะไรก็ตาม มันจึงเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เร็วเกินไปสักหน่อย กับการเด้งสก็อต ปาร์คเกอร์ ออกจากตำแหน่งอย่างรวดเร็ว

ถ้าหากได้เห็นปาร์คเกอร์ได้คุมเกมต่อ ๆ ไปที่ต้องเจอทีมที่ไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับทีมใหญ่เหล่านี้ อาจตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า ปาร์คเกอร์สมควรจะออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมหรือไม่ 

แท้จริงแล้วจุดเด่นของ บอร์นมัธ ชุดนี้คือเกมรับที่เสียประตูน้อยที่สุดในลีก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อฤดูกาลก่อน พวกเขาดูเหนียวแน่นเมื่อสู้กับทีมระดับเดียวกัน กลับกันในการลงเล่นพรีเมียร์ลีก 6 นัดพวกเขาเสียมากถึง 18 ประตู มีเกมรับที่อ่อนยวบชัดเจน 

ดังนั้นสรุปได้ว่า จุดเด่นที่พวกเขาเคยมี มันไม่ได้เป็นจุดเด่นอีกต่อไป เมื่อเข้าสู่การแข่งขันที่ดุเดือดในพรีเมียร์ลีกที่มาตรฐานแข็งแกร่งกว่าเดิมหลายเท่า และเมื่อสูญเสียจุดเด่นที่พาทีมเลื่อนชั้นไปแล้ว ก็ไม่แปลกที่สถานการณ์ของบอร์นมัธในพรีเมียร์ลีก จะย่ำแย่ตามไปด้วย 

สิ่งสำคัญที่ไม่อาจช่วยให้บอร์นมัธอยู่ต่อในลีกนี้ได้ยาว และแสดงภาพว่าทำไมจุดแข็งของทีมถึงหายไป นั่นก็เพราะคุณภาพนักเตะของพวกเขาไม่ได้มีคุณภาพมากพอ ในตอนนี้พวกเขามีผู้จัดการทีมชั่วคราว อย่าง แกรี่ โอนีล ในช่วงเวลาที่เขามาคุมทีม พวกเขาชนะ 1 เสมอ 1 เก็บได้ 4 คะแนนก็จริง แต่ในรูปเกมก็ว่าตามตรงไม่สามารถเข็นให้ไปได้ไกลกว่านี้มากนัก รากฐานของปัญหาที่ว่าคือบอร์นมัธ อาจไม่ได้อยู่ที่ความสามารถของโค้ช แต่มีนักเตะที่คุณภาพไม่พอในการเล่นพรีเมียร์ลีก 

ยิ่งในตลาดนักเตะรอบล่าสุด สิ่งที่บอร์นมัธทำคือการหานักเตะร่วมทีมโดยที่ไม่ได้ใช้งบอะไรมากมายนัก มีนักเตะเพียง 2 คนที่ดูเหมือนว่าจะช่วยยกระดับทีมของพวกเขาได้ คือเนโต้ ผู้รักษาประตูจากบาร์เซโลน่า และ ไรอัน เฟรเดอริกส์ จากเวสต์แฮมที่ดึงมาแบบฟรี ๆ ซึ่งมีชื่อชั้นในการเล่นลีกใหญ่มาบ้าง 

แต่นอกเหนือจากนั้นเราไม่ได้เห็นการยกระดับอะไรให้ชัดเจน ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าพวกเขาจะสามารถอยู่รอดได้แบบง่ายๆ คือถ้าหากจะอยู่รอดก็ต้องพยายามจนหยดสุดท้ายจริง ๆ หรืออาจต้องลุ้นจนเข้าสู่ในช่วงปลายของฤดูกาล  

ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว นักข่าวสายลีกรองของประเทศอังกฤษ เปิดเผยว่าผู้บริหารของบอร์นมัธ พร้อมทำทีมแบบตกชั้นก็ไม่เสียใจ เนื่องจากทางเจ้าของไม่ขอทุ่มเงินก้อนโต แล้วลุ้นขาดทุน แต่จะทำทีมเท่าที่มีงบ ตกชั้นก็ตกไป ไม่ว่ากัน 

นั่นคือมุมมองของผู้บริหาร แต่ในมุมมองของทีมงานโค้ช, นักเตะ และแฟนบอล ไม่มีใครอยากเล่นฟุตบอลในระดับพรีเมียร์ลีกแบบไม่มีความทะเยอะทะยาน ทุกคนอยากประสบความสำเร็จ และอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกต่อไปให้ได้

ความต้องการที่สวนทางกัน ทำให้การสร้างทีมบอร์นมัธในฤดูกาลนี้จึงออกมาขาด ๆ เกิน ๆ ดูเป็นทีมที่ไม่มีความพอดีแบบที่เราเห็น และแสดงถึงความไม่พร้อมเล่นในพรีเมียร์ลีก จากหลายเกมที่ผ่านมา

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่บอร์นมัธจะถูกวางให้เป็นเต็ง 1 ในการเป็นทีมที่ตกชั้นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ แม้ว่า ณ ปัจจุบันพวกเขาจะอยู่ในอันดับที่ 13 ของตารางก็ตาม 

The Sporting News

The Sporting News Photo

Beyond the score: The sports world explained. The Sporting News has been a trusted sports media publisher since 1886, delivering the news, insights and entertainment that fans around the world need to know.