ผลงานออกสตาร์ท NBA ฤดูกาล 2022-23 ด้วยการแพ้ 4 เกมรวด ทำให้หลายคนคิดว่า ซาคราเมนโค คิงส์ คงวนลูปเดิมกับการทีมเป็นไม้ประดับในช่วงฤดูกาลปกติและคงถูกเขี่ยออกจากรอบเพลย์ออฟอีกตามเคย จากนั้นก็ดราฟท์ตัวผู้เล่นดาวรุ่งเข้ามาเสริมทัพก่อนจะให้ความหวังกันอีกครั้งวนไปเรื่อย ๆ
แต่ช่วงโค้งแรกของฤดูกาล ตอนนี้พวกเขากลับกลายเป็นทีมบุกอันดับ 1 ของลีก พร้อมทำสถิติชนะ 10 จาก 12 หลังเกม ที่ไม่รวมกับ 4 เกมแรกของฤดูกาล อีกทั้งสองเกมที่พ่ายแพ้ คือการปราชัยคู่แข่งในระดับไม่เกิน 3 คะแนน
สถิติของทีมที่ร้างรอบเพลย์ออฟยาวนานสุด ในปลีก NBA อาจจบลง หากพวกเขายังรักษาฟอร์มเก่งเช่นนี้ต่อไปได้
ซาคราเมนโต คิงส์ : ทีมที่เน้นเข้าร่วมแต่ไม่เข้ารอบ (เพลย์ออฟ) ยาวนานที่สุดของ NBA
ทำไม ซาคราเมนโต คิงส์ จึงฟอร์มดี
ในเมื่อจุดเด่นของทีมไม่ใช่เกมรับ ก็ขยับเกมรุกให้เป็นทีมระดับแนวหน้าของลีกไปเลย อาจเป็นปรัชญาที่เราคุ้นเคยสมัยดู ฟีนิกซ์ ซันส์ ยุครุ่งเรื่องที่มี สตีฟ แนช นำทัพ แต่สำหรับ คิงส์ พวกเขามีการ์ดฝีมือดีที่ผ่านการบ่มเพาะจากลีกมาแล้ว 5 ฤดูกาล อย่าง ดี แอร่อน ฟ็อกซ์ เป็นศูนย์กลางในเกมบุก
ฟีนิกซ์ ซันส์ ยุค “7 วิ” ต้นตำรับแห่งการบุกเร็วจนทีมป้องกันตั้งรับแทบไม่ทัน
ฟ็อกซ์ กับ แนช อาจแตกต่างกันบ้างเล็กน้อยโดยสไตล์การเล่น แต่พวกเขาคือฟันเฟืองชิ้นหลักในการขับเคลื่อนพลังเกมบุกที่เน้นความรวดเร็วและเฉียบขาด
ขณะเดียวกัน เคมี การเล่นเกมบุกภายในทีมของ คิงส์ ค่อนข้างสอดคล้องกันมาก โดเมนตาส ซาบอนิส ทำหน้าที่ลุยวงในและโชว์ฟอร์มระดับออลสตาร์ให้ทีม เคียงข้างกับ คีแกน เมอร์เรย์ รุกกี้ที่โชว์ฟอร์มได้ดีสมราคา รวมถึงยังมี แฮริสัน บาร์นส์ ผู้เล่นที่เก๋าพอจะปรับเกมของตัวเองให้ตรงกับสิ่งที่ทีมต้องการในสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป
เควิน เฮอร์เตอร์ กลายเป็นของดีคุ้มราคา ที่พวกเขาเอามาจาก แอตแลนต้า ฮอว์กส์ และ มาลิค มังค์ คือ ฟรีเอเย่นต์ที่ตอบโจทย์กับสไตล์การเล่นของทีม ทั้งคู่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพการโจมตีจากวงนอกให้กับทีมได้อย่างชัดเจนในฐานผู้เล่นสวิงแมน ที่ทำหน้าที่ได้ทั้งชู้ตติ้งการ์ด หรือ ขยับไปเป็นปีกตัวเล็ก เหมือนต้องการความเร็วและการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้นให้กับเกมในสนาม
ส่วน ดาเวียน มิทเชลล์ คือดาวรุ่งที่เก่งเกมรับสุดของทีม หากต้องการตัวล็อคดาวน์ผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม หมอนี่สามารถสลับลงมาทำงานของเขาได้ดีเสมอ และเกมบุกก็ดีพอตัวด้วยไม่ได้ขี้เหร่มากนัก เช่นเดียวกับ เทอเรนซ์ เดวิส ที่ทีมสามารถพึ่งพาระยะ 3 คะแนนระดับ 40% จากเขาได้อีกทาง
อีกทั้งการเลือกออปชั่นเกมบุกเป็นสำคัญ ย่อมตอบโจทย์ต่อความรู้สึกของทีมพลังหนุ่มอยู่แล้ว การใช้ทรัพยากรในมือที่ดีผ่านปรัชญาที่พวกเขาเต็มใจ ยิ่งเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นในภาพรวมได้อย่างชัดเจน
โอกาสที่ ซาคราเมนโต คิงส์ กลับคืนสู่เพลย์ออฟในรอบ 16 ปี
ความคึกคักในช่วงฟอร์มดีทำให้เราอาจละเลยพื้นฐานของทีมไป พวกเขาอาจมีช่วงร้อนแรงเช่นนี้ได้ ขณะเดียวกันก็อาจจะเจอช่วงมรสุม หากเริ่มมีอาการสะดุด หรือ ผู้เล่นตัวหลักบาดเจ็บ อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ถูกถ่ายทอดผ่าน คิงส์ ชุดนี้ออกมาชัดเจนคือความใจสู้ เพราะ 2 เกมที่พวกเขาแพ้ หลังจากออกสตาร์ทด้วยการปราชัย 4 เกมรวด พวกเขาสู้ได้หมด โดยแพ้คู่แข่งไม่เกิน 3 คะแนนเท่านั้น
การหมุนเวียนผู้เล่นในทีมก็ทำได้ดี ไม่ให้ตัวหลักกรำศึกหนักด้วยเวลาลงเล่นที่มากจนเกินไป เฉลี่ยมากสุดของทีมคือ เควิน เฮอร์เตอร์ ลงเล่น 32.3 นาทีต่อเกม ตามมาด้วย ฟ็อกซ์ 32.2 นาที สำหรับการบริหารจัดการทีมด้วยฝีมือโค้ชบางราย อาจอัดเวลาให้พวกเขาลงเล่นมากกว่านี้ เพราะมองแค่ว่ายังหนุ่มยังแน่น สภาพร่างกายก็ควรสมบูรณ์ แต่แบบนั้นจะเป็นการละเลยซีซั่นที่ยังเหลืออีกยาวไกลจนเกินไป
จุดสำคัญที่ว่า คิงส์ จะได้กลับเข้าสู่เพลย์ออฟหรือไม่ คือการยืนระยะของฟอร์มการเล่น และถ้าหากเจอช่วงตะกุกตะกักพวกเขาต้องกลับมาให้ได้ไว ส่วนหนึ่งก็เป็นงานของโค้ชด้วย ที่ต้องเพิ่มแผนการเล่นหรือสร้างแผนสำรอง (ที่ต้องใช้การซ้อมร่วมกับผู้เล่น) เพื่อเป็นตัวเลือกในวันที่สถานการณ์ไม่เป็นใจ
ตอนนี้อะไรก็ดีไปหมด เราเลยยังไม่เห็นจุดบอดมากนัก แต่ถ้าสมมติว่า ฟ็อกซ์ บาดเจ็บ ใครพอจะก้าวขึ้นมารันเกมให้กับทีมได้บ้าง ? แล้วผู้เล่นรอบ ๆ จะต้องปรับวิธีการเล่นหรือระดับความเร็วหรือไม้่ อย่่างไร ?
ช่วงขาขึ้นก็สามารถดื่มด่ำไปได้ แต่ไม่ควรละเลยกับการสร้างแผนรับมือในช่วงวิกฤต จุดนั้นมากกว่าที่จะวัดคุณภาพโดยรวมของทีมว่า ยามย่ำแย่พวกเขาแกร่งได้แค่ไหน
NBA แข่งขันกัน 82 เกมในฤดูกาลปกติ การลงเล่นที่ยังไม่ผ่าน 1 ใน 4 อาจตัดสินอะไรไม่ได้มากนัก แต่ก็ต้องยอมรับว่า คิงส์ ชุดนี้ทำให้หลายคนนึกถึงการเล่นระดับชั้นแนวหน้าของลีก เหมือนสมัยยุคต้น 2000s เลยทีเดียว
ทิ้งท้ายให้เล็กน้อย คิงส์ ยุคต้น 2000s เก่งแค่ไหน
พวกเขาเป็นทีมที่มีแฟน ๆ เยอะ ทั้งจากฟอร์มการเล่น และ ความดึงดูดใจของกลุ่มผู้เล่นที่เป็นหน้าเป็นตาให้กับทีมได้
อย่างในซีซั่น 2000-01 พวกเขาชนะฤดูกาลปกติได้ถึง 55 เกม ตัวเด่นสมัยนั้นคือ คริส เว็บเบอร์ และ เพย่า สโตยาโควิช เพียงแต่พวกเขาแกร่งไม่พอในรอบเพลย์ออฟ เมื่อถูกเลเกอร์ส ยุค โคบี้-แชค กวาดซีรีส์ใส่ ในรอบที่ 2
ปี 2001-02 พวกเขาสามารถสร้างสถิติชนะ 61 เกม ตามด้วย 59 เกมในปี 2002-23 และ อีก 55 เกม ในปี 2003-04
จุดเด่นของทีมชุดนั้นคือการเล่นเกมรุกที่เก่ง ซึ่งทีมยังมีผู้เล่นอย่าง ไมค์ บิบบี่, วลาดี ดิวาช รวมถึงตัวประกอบเก่ง ๆ ทั้ง บ็อบบี้ แจ็คสัน, ฮีโด เทอร์โคกลู หรือ แบรด มิลเลอร์ ฯลฯ วนเวียนกันเป็นอะไหล่ชั้นดีของทีมในแต่ละฤดูกาลอีกด้วย
หลังเชียร์แบบยิ้มแห้งกันมายาวนาน 16 ปี โอกาสดีที่จะได้เห็นคิงส์กลับเข้าสู่เพลย์ออฟ คงทำแฟน ๆ ซาคราเมนโต กลับมาคึกคักกันอีกครั้ง และข่าวสารที่ติดตามอาจเป็นเรื่องผลงานเด่น มากกว่า โอกาสดราฟท์ ในอนาคตแล้วแหละ
