ฝึกซ้อมเหนือมนุษย์ : ทำไมเคอร์รีถึงยังพีคใน NBA แม้อายุ 34

Nawapon Kiatpisan

ฝึกซ้อมเหนือมนุษย์ : ทำไมเคอร์รีถึงยังพีคใน NBA แม้อายุ 34 image

สเตฟเฟน เคอร์รีได้รับการยกย่องว่าเป็นนักกีฬาที่มีสภาพร่างกายดีที่สุดคนหนึ่งในลีกเอ็นบีเอ แต่การฝึกซ้อมของเขาดูเหมือนจะไม่เหมาะสำหรับทุกคนซักเท่าไหร่นัก

หลายๆคนอาจจะยังมีภาพติดตาตอนที่เคอร์รีได้รับอาการบาดเจ็บบ่อยๆที่บริเวณข้อเท้าในช่วงเริ่มต้นอาชีพของเขา แต่พอเขาสามารถผ่านนรกขุมนั้นมาได้ร่างกายของเขาก็เติบโตขึ้นไปพร้อมๆกับฝีมือ ในทุกๆปีโดยเฉพาะช่วงหลังเราจะเห็นว่าร่างกายของเขาแน่นและกำยำมากขึ้น แม้จะอายุแตะวัย 34 แต่ฝีมือของเขาในการยิง 3 คะแนนยังเหมือนเดิมและยังเข้าหาห่วงดีกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำ นั่นเป็นเพราะว่าร่างกายของเขายังคงฟิตและตอบสนองต่อเกมได้อย่างดี

การฝึกซ้อมของเขาได้ถูกเปิดเผยออกมาผ่านเทรนเนอร์ที่มีหน้าที่ฝึกให้สเตฟและมาร์ค เมดินาจากเอ็นบีเอ ซึ่งเรื่องราวนี้อาจจะทำให้คุณคิดว่าเคอร์รีไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาแน่ๆ

NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัด คลิกเลย

Stephen Curry Golden State Warriors
(NBA Entertainment)

อาเจียนเพราะทนไม่ไหวกับตารางซ้อมของเคอร์รี

จากที่เทรนเนอร์ของสเตฟอย่างแบรนดอน เพย์นได้มาออกรายการ บาสเกตบอล อิลูมินาติของอามิน เอลฮาสซานและทอม เฮเบอร์สโทรห์ เขาได้เล่าไว้ว่ามีผู้เล่นคนหนึ่งซึ่งเขาไม่ขอเอ่ยนามว่าเป็นใครได้อาเจียนออกมาเมื่อเขาทำการฝึกซ้อมเหมือนกับการซ้อมตามปกติของสเตฟเฟน เคอร์รี

“เรามีผู้เล่นที่ตอนนี้ยังคงเล่นอยู่ในเอ็นบีเอเข้ามาฝึกซ้อม แต่ว่าหลังจากซ้อมไปได้ 5 นาทีเขาก็ไปนั่งลงที่พื้นสนามข้างๆประตูประมาณ 30 วินาทีก่อนที่จะไปด้านนอกแล้วเลิกซ้อมในทันที แล้วเขาก็เป็นผู้เล่นทีดีด้วยนะ” เพย์นกล่าวเอาไว้

ในการสัมภาษณ์ของพอดแคสต์เดียวกัน เพย์นได้เล่าต่อว่าสตาร์ของแอตแลนต้า ฮอว์กส์อย่างเทร ยังได้เข้ามาร่วมฝึกซ้อมกับเคอร์รีเหมือนกัน ซึ่งในช่วงแรกยังต้องเจอกับความติดขัดเพราะยังปรับตัวไม่ทันกับความเร็วของการฝึกแต่ยังก็ “สามารถกลับมาได้อย่างดี” จนซ้อมเสร็จไปในที่สุด

การซ้อมสุดโหดของสเตฟ

ในช่วงไฟนอลปี 2022 มาร์ค เมดินาจากเอ็นบีเอ.คอมได้เขียนบทความเกี่ยวกับการปรับสภาพร่างกายของสเตฟเฟน เคอร์รีและการฝึกซ้อมที่เขาต้องทำเพื่อรักษาสภาพร่างกายให้อยู่ในจุดสูงสุด

“ในการฝึกซ้อมช่วงหน้าร้อน เคอร์รีจะฝึกโดยการเล่นเกม 21 อยู่บ่อยๆด้วยวิธีที่ต่างออกไป เขาต้องทำให้ได้ 21 คะแนนโดยจะยิง 3 คะแนน, ยิงระยะกลางและเลย์อัพ ซึ่งแต่ละอย่างจะนับเป็น 1 คะแนนเท่านั้น แถมเคอร์รียังต้องทำให้ถึง 21 แต้มภายใน 1 นาทีด้วย” เมดินาเขียนเอาไว้ “และเมื่อยิงเสร็จแต่ละลูก เคอร์รีต้องวิ่งไปที่เส้นครึ่งสนามก่อนที่จะมายิงลูกต่อไป”

นอกจากเรื่องการทำแต้ม อีกส่วนสำคัญคือการวิ่งของสเตฟเฟน เคอร์รี ที่เรามักจะเห็นภาพซ้ำตลอดเวลาเมื่อเคอร์รีลงเล่นเพราะเขาจะวิ่งไม่มีหยุดเพื่อหาช่องว่างและพื้นที่ในการยิง 3 คะแนนเสมอ ซึ่งแน่นอนว่าสเตฟไม่ได้เกิดมาแล้ววิ่งพร้อมยิงอย่าแม่นยำได้ทั้ง 4 ควอเตอร์ แต่นี่มาจากการฝึกซ้อมทั้งนั้น

จากบทความของเมดินามีท่อนหนึ่งที่บรูซ เฟรเซอร์หรือผู้ช่วยโค้ชของวอร์ริเออร์สได้อธิบายถึงการฝึกซ้อมของเคอร์รีว่าทำไมเขาถึงต้องซ้อมในรูปแบบที่กล่าวไปข้างต้น

Steph Curry Warriors Cavaliers
NBA Entertainment

“เหตุผลที่เคอร์รีวิ่งอย่างหนักแล้วมายิงบอลเพราะสเตฟอยากให้ขาและปอดของเขาเหนื่อยเมื่อต้องยิง 3 แต้มลูกสำคัญ” เฟรเซอร์เล่าต่อว่า “เขาไม่ต้องการที่จะต้องเจอกับความล้าของปอดและขาตลอดการซ้อมหรอกเพราะมันไม่สมจริง แต่ที่เขาทำแบบนี้เพราะต้องการให้ตัวเองสามารถยิงลูกในควอเตอร์ที่ 4 ได้เหมือนควอเตอร์ที่ 1”

อย่างที่เฟรเซอร์บอกว่ามันไม่สมจริงเพราะในควอเตอร์ที่ 1 เคอร์รีคงยังไม่เหนื่อยกับการเล่นเท่าไหร่นัก แต่ที่ต้องมีการฝึกซ้อมการยิงโดยกำหนดเวลาและการวิ่งเข้าไปด้วยก็เพราะจะทำให้ไม่ว่าเขาจะเหนื่อยหรือล้าแค่ไหน เปอร์เซนต์การยิงของเขาก็จะไม่ตกไปจากเดิม

ต่อมาเพย์นได้บอกเมดินาว่าเขาได้สร้างเกมหนึ่งขึ้นมาเรียกว่า “สองลูกติด” ที่จะต้องให้เคอร์รียิง 3 คะแนนลง 2 ลูกติดจาก 5 จุดในระยะเวลา 90 วินาทีหรือ 1 นาทีครึ่งแต่เขาต้องเปลี่ยนเวลาที่กำหนดบ่อยมากเนื่องจากเคอร์รีใช้เวลาแค่ 75 วินาทีเท่านั้นในหลายๆครั้ง ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่เคอร์รีทำลายสถิติ เวลาในการยิงก็จะถูกหดสั้นลงไปเรื่อยๆ

นอกจากนั้นทั้งเพย์นและเคอร์รีก็ได้ใช้ โนอาห์ ชู๊ดติ้ง ซิสเต็มเพื่อดูว่าการหมุนของบอล, องศาของลูกและความลึกเมื่อเข้าห่วงลงไปเป็นอย่างไรเมื่อสเตฟยิง หากข้อมูลบอกว่าลูกที่ยิงลงไม่พุ่งเข้ากลางห่วงอย่างพิดิบพอดี ลูกนั้นคือการยิงพลาด (แม้จะลงก็ตาม) ถ้าเคอร์รีไม่สามารถยิงบอลให้ลงแบบกลางห่วงพอดีถึง 10 ลูก เขาก็ต้องทำไปแบบนั้นเรื่อยๆจนกว่าจะทำครบ

ฟอร์มระดับ MVP 

ถึงแม้ฟังแล้วดูเหมือนว่านี่คือการฝึกซ้อมที่ไม่ใช่ของมนุษย์แต่เคอร์รีก็ยังทำได้และทำมาตลอด ตอนนี้เคอร์รีกำลังอยู่ในช่วงที่ฟอร์มดีมากหรืออาจจะมากที่สุดในอาชีพของเขาก็ว่าได้เพราะเขามีค่าเฉลี่ยการทำแต้มที่ 31.4 แต้มต่อเกมโดยยิงฟิลด์โกลลงทั้งหมด 51.8 เปอร์เซนต์, 43.6 เปอร์เซนต์จากระยะ 3 แต้มและ 90.7 เปอร์เซนต์จากลูกโทษ

เคอร์รีเคยทำระดับ 50/40/90 (เปอร์เซนต์ฟิลด์โกล/เปอร์เซนต์ 3 คะแนน/เปอร์เซนต์ลูกโทษ) มาแล้วตอนที่เขาได้รางวัลเอ็มวีพีแบบเอกฉันท์ในฤดูกาล 2015-16 ซึ่งถ้าเขายังรักษาฟอร์มระดับนี้ไว้ได้และพาทีมขึ้นไปในพื้นที่เพลย์ออฟก็อาจจะมีความเป็นไปได้ว่าตัวของเขาจะได้รับรางวัลเอ็มวีพีเป็นครั้งที่ 3 ในอาชีพมาประดับบนเรซูเม่

Nawapon Kiatpisan

Nawapon Kiatpisan Photo

NBA Lover