เมื่อพูดถึง ไมเคิล โอเว่น คำว่า “ตำนานสโต๊ค” ย่อมพ่วงหลังต่อท้ายมาด้วยเสมอ เพราะนักเตะรายนี้ไม่เป็นที่ต้อนรับจากแฟนหลายสโมสรดัง ทั้ง ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือเรอัล มาดริด เนื่องจากผลงานหรือพฤติกรรมไม่เข้าตาแฟนคลับของทีม
สโต๊ค ซิตี้ จึงกลายเป็นสโมสรที่ผู้คนจดจำ เมื่อพูดถึงอาชีพนักฟุตบอลของนักเตะรายนี้ ทั้งที่ความจริงนั้นตรงกันข้าม เพราะนอกจาก โอเว่น จะล้มเหลวไม่เป็นท่าที่สโต๊ค เขายังเคยบอกว่านี่เป็นช่วงเวลาค้าแข้งที่เขา “เกลียด” มากที่สุดอีกด้วย
เกิดอะไรกับ ไมเคิล โอเว่น ในช่วงเวลาหนึ่งปีที่ผู้คนเรียกขานเขาว่าตำนานกันแน่ ?
ร่วมสนุกลุ้นรางวัลพร้อมโบนัสก้อนใหญ่
เส้นทางสู่สโต๊ค ซิตี้
ย้อนกลับไปยังฤดูกาล 2011-12 ไมเคิล โอเว่น กำลังประสบปัญหาอย่างหนักในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด หลังเขามีส่วนร่วมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพียง 4 นัดตลอดซีซั่น และหากคิดเป็นการลงสนามในศึกพรีเมียร์ลีกอย่างเดียว โอเว่นลงสนามให้กับทัพปีศาจแดงเพียงนัดเดียวเท่านั้น
โอเว่นยอมรับในภายหลังว่าเขาคิดผิดที่ต่อสัญญากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกไป แม้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะเป็นคนเอ่ยปากให้เขาอยู่ต่อด้วยตัวเอง
แต่ท้ายที่สุดแล้ว โอเว่นไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของทัพปีศาจแดงอย่างแท้จริง เขาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในลีกแค่ 6 นัด ตลอดสามปีในโอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยในฤดูกาลสุดท้ายของเขากับทีม โอเว่นเล่นในลีกเพียง 79 นาที
โอเว่นรู้ดีว่าเขาต้องหาต้นสังกัดใหม่ในฤดูกาลหน้า แต่ด้วยผลงานที่น่าผิดหวังของเขาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้แทบไม่มีทีมไหนสนใจคว้าตัวเขาไปร่วมทีม
ยกเว้นแต่ สโต๊ค ซิตี้ ทีมระดับล่างของศึกพรีเมียร์ลีก ที่ไม่เพียงให้ความสนใจโอเว่นอย่างจริงจัง แต่ยังตามจีบเขามานานร่วมปี เนื่องจาก โทนี่ พูลิส กุนซือของทีมในขณะนั้น ชื่นชอบฝีเท้าของโอเว่นเป็นอย่างมาก
สโต๊คทำทุกอย่างเพื่อให้อดีตแข้งดีกรีทีมชาติอังกฤษสนใจย้ายมาร่วมทีม พูลิส เคยให้สัมภาษณ์ออกสื่อว่า เขาพร้อมมอบเสื้อเบอร์ 10 ของทีมให้โอเว่น หากเจ้าตัวต้องการ แต่โอเว่นไม่เคยเอ่ยปากตอบรับข้อเสนอของสโต๊ก เพราะกำลังมองหาข้อเสนอที่ดีกว่า
แต่หลัง พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2012-13 เริ่มต้นไปแล้วสามนัด และข้อเสนอใหม่ยังไม่มีเข้ามา โอเว่นจึงตัดสินใจเซ็นสัญญากับทัพช่างปั้นหม้อ กลายเป็นสมาชิกใหม่ของสโต๊ค ซิตี้ ในที่สุด
ปีสุดท้ายในอาชีพค้าแข้ง
เหตุผลสำคัญที่ทำให้โอเว่นเลือกเซ็นสัญญาระยะยาวหนึ่งปีกับ สโต๊ค ซิตี้ ประการแรกคือความเชื่อมั่นที่ผู้จัดการทีมมีให้กับเขา
โอเว่นเปิดเผยในงานแถลงข่าวหลังเปิดตัวกับสโมสรใหม่ว่า พูลิสต้องการมอบสัญญาหลายปี และยืนยันว่าโอเว่นจะเป็นคนสำคัญของบริแทนเนีย สเตเดี้ยม ด้วยการมอบเสื้อหมายเลข 10 ให้กับเขาตามคำสัญญา
เหตุผลประการที่สองคือ โอเว่นต้องการค้าแข้งกับสโมสรที่อยู่ใกล้มณฑลเชชเชียร์ เนื่องจากครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ที่นั่น
การเล่นให้กับสโต๊คจึงตอบโจทย์ความต้องการของโอเว่น เพราะทีมแห่งนี้ตั้งอยู่ในมณฑลสแตฟฟอร์ดเชียร์ ซึ่งอยู่ติดกับเชชเชียร์ทางตอนใต้ โอเว่นจึงไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหานอกสนาม และสามารถโฟกัสกับการเล่นฟุตบอลอย่างเต็มที่
พิจารณาจากองค์ประกอบต่าง ๆ ดูเหมือนว่า โอเว่น จะกลับมาประสบความสำเร็จได้อีกครั้งกับสโต๊ค แต่เรื่องราวกลับจบลงซ้ำเดิมในแบบที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วที่นิวคาสเซิล และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เพราะ โอเว่น ได้รับโอกาสลงสนามกับสโต๊กเพียง 8 นัด โดยทุกนัดถือเป็นการลงสนามในฐานะตัวสำรอง นั่นหมายความว่า โอเว่นไม่เคยออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้สโมสรใหม่ของเขาเลย
ความล้มเหลวของเขากับสโต๊ค ซิตี้ คือฟางเส้นสุดท้ายของโอเว่นกับวงการฟุตบอล อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษตัดสินใจประกาศแขวนสตั๊ดด้วยวัยเพียง 34 ปี ฝากผลงานสุดท้ายบนเวทีพรีเมียร์ลีก เป็นการลงเล่นในถิ่นบริแทนเนีย สเตเดี้ยม ตลอดฤดูกาล 2012-13 โดยทำได้เพียงหนึ่งประตูเท่านั้น
เบื้องหลังความล้มเหลว
โอเว่นออกมาเปิดเผยในภายหลังว่า เหตุผลที่ตัวเขาไม่ประสบความสำเร็จกับสโมสรไหนเลยในอังกฤษ หลังกลับมาค้าแข้งที่บ้านเกิดเป็นรอบสอง
ไล่ตั้งแต่ นิวคาสเซิล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และสโต๊ค ซิตี้ เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่สะสมมาตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น ส่งผลให้ความเร็วของเขาลดลงไป และแม้สูญเสียความเร็วอันเป็นจุดแข็งสำคัญ มันจึงเป็นเรื่องยากที่โอเว่นจะเบียดปะทะกับนักเตะรายอื่นในพรีเมียร์ลีก ซึ่งล้วนแข็งแกร่งกว่า
อย่างไรก็ตาม ในบรรดาสามทีมที่เขาค้าแข้งช่วงครึ่งหลังอาชีพ สโต๊ค ซิตี้ กลายเป็นช่วงเวลาที่ขมขื่นที่สุดในชีวิตของโอเว่น ครึ่งหนึ่งเจ้าตัวเคยถึงกับออกมาพูดว่า เขา “เกลียด” ช่วงเวลาของเขากับสโต๊ค
แม้ภายหลังเจ้าตัวจะออกมารีบแก้ไขคำพูดของตน แต่โอเว่นยังยืนยันถึงสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีของเขาในถิ่นบริแทนเนีย สเตเดี้ยม โดยยืนยันว่า เส้นทางอาชีพนักฟุตบอลของเขาเลวร้ายที่สุดกับสโต๊ค
โอเว่นกล่าวว่าการซ้อมในแต่ละวัน โดยรู้ตัวดีว่าไม่มีโอกาสลงสนาม เป็นอะไรที่ทำร้ายจิตใจของเขาอย่างมาก และทำให้เขาหมดไฟในการเล่นฟุตบอล
ขณะที่ พูลิส ซึ่งต้องรับผิดชอบกับความล้มเหลวของสโต๊ค และถูกปลดออกจากตำแหน่งในช่วงท้ายฤดูกาล ก็เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าตลอดหนึ่งปีที่เขาทำงานกับโอเว่น ดูเหมือนว่าอดีตนักเตะทีมชาติจิตใจไม่อยู่กับเนื้อตัวเลย
นี่คือเรื่องราวของ ไมเคิล โอเว่น กับสโต๊ค ซิตี้ และคำว่า “ตำนานสโต๊ค” ก็เป็นเพียงคำพูดล้อเลียนของแฟนบอลทีมอื่นเท่านั้น เพราะถ้าหากคุณเดินไปถามโอเว่นตัวจริง ช่วงเวลาที่เขาค้าแข้งกับทัพช่างปั้นหม้อ ไม่ใช่หนึ่งปีที่น่าจดจำเท่าไหร่นัก เพราะในท้ายที่สุด โอเว่นโบกมือลาจากวงการฟุตบอล เพราะความล้มเหลวกับสโมสรแห่งนี้นั่นเอง
ร่วมสนุกลุ้นรางวัลพร้อมโบนัสก้อนใหญ่
ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand
